รีวิวเกม THE EVIL WITHIN ภาคที่ 1 ทำไมดีกว่าภาคที่ 2 เหตุผลที่ทำให้เกมดีหรือไม่ดีผงอยู่ที่ประสบการณ์ที่ผู้เล่นได้รับจากการเล่นเกมซึ่งนั้นหมายความว่าคุณอาจจะชอบหรือไม่ชอบเกมที่คุณเล่นก็ได้ แม้จะเป็นเกมในซีรีส์ที่คุณชื่นชอบมากแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยครับว่าท้ายที่สุดแล้วมันจะทำให้การเล่นเกมของคุณนั้นรู้สึกแย่ลง และมีอยู่หลายเกมเลยครับที่ได้พัฒนาภาคต่อของซีรีส์เกมออกมาแน่นอนว่าการพัฒนามันหมายถึงการทำให้มันดีขึ้นและมันควรจะส่งผลในทิศทางที่ดีขึ้นมากกว่าทิศทางที่แย่ลง เกมบางเกมครับที่ทำตรงกันข้ามกลับทำให้ภาคแรกนั้นกลายเป็นภาพที่น่าจดจำมากเลยทีเดียวเมื่อมีภาคสองออกมา และนั่นเองครับคือสิ่งที่ทำให้เกมนี้มีความน่าสนใจ ครั้งนี้เราจะมาพูดถึงหนึ่งซีรีส์เกมเก่าที่เรียกได้ว่าครองใจหลายคนแม้ปัจจุบันจะหายไปนานแล้วแต่ก็ยังคงถูกเรียกกลับมาพูดถึงอยู่บ่อยครั้งกับซีรี่ย์เกมที่มีชื่อว่า THE EVIL WITHIN แต่ต้องบอกเลยครับว่าสำหรับภาคนี้มีอะไรที่น่าสนใจมากมายแน่นอน รู้กันดีครับว่าย้อนไปสมัยก่อนในช่วงที่เกมนี้เปิดตัวออกมาใหม่ๆ THE EVIL WITHIN คือหนึ่งในเกมยิงผีและปีศาจที่ขึ้นชื่อว่าน่าสนใจมากๆ เพราะเกมนี้ค่อนข้างมีความพิเศษในเรื่องของการที่ผู้เล่นจะได้ต่อสู้กับปีศาจกับระบบต่างๆที่ทัดเทียมกับเกมในตำนานอย่าง Resident Evil แน่นอนครับว่าเมื่อทำออกมาแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นคือเกมนี้ช่วยให้หลายคนเข้าถึงความสนุก และภาคแรกก็ทำรายได้อย่างถล่มทลาย แต่พอมาภาคที่สองกลับเป็นรูปแบบตรงกันข้ามไปเลยครับ ด้วยเหตุนี้เองวันนี้เราจะมาพูดถึงข้อแตกต่างระหว่างภาคที่หนึ่งและภาคที่สองว่าทำไมทั้งสองภาคนี้ถึงได้รับเสียงวิจารณ์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงแม้ว่าจะเป็นเกมในซีรีส์เดียวกันก็ตามใน รีวิว THE EVIL WITHIN ภาคที่ 1 ทำไมดีกว่าภาคที่ 2
ประสบการณ์ที่ได้รับจากภาคที่สองน้อยกว่าภาคที่หนึ่ง

เป็นที่รู้กันดีครับว่าเราจะตัดสินสิ่งหนึ่งว่าดีหรือไม่ดีต่อเมื่อประสบการณ์ของเรานั้นเป็นตัวตัดสิน เช่นเดียวกันกับในเกม THE EVIL WITHIN หมายความว่าภาคแรกทำออกมาไว้ดีอยู่พอตัว ทำให้เกมมีความน่าสนใจและน่าติดตามอย่างมาก ประสบการณ์ที่ได้รับจากเกมนี้ในภาคแรกค่อนข้างหลากหลายเลยครับตั้งแต่รูปแบบเกมเพลย์ เนื้อเรื่อง หรือแม้แต่การต่อสู้ที่เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ แต่ในปัจจุบันถ้าคุณย้อนกลับมาเล่นเกมอีกครั้งหนึ่ง ก็คงต้องบอกว่ามันอาจไม่ได้ตอบโจทย์ขนาดนั้นแต่คุณลองคิดดูสิครับว่าเมื่อหลายปีก่อนที่เกมนี้ออกมายังไม่ได้มีเกมที่ให้ความรู้สึกน่าสนใจมากขนาดนี้ มันจะน่าเล่นแค่ไหนเมื่อเกมนี้เปิดตัวออกมาและประสบการณ์นี้เองทำให้เกมภาคนี้เองถูกพูดถึงกันในแง่บวกอย่างมาก ในทางกลับกันภาคที่สองนั้นก็ดีไม่ต่างกันเลยเพียงแต่ระบบที่ทำออกมานั้นมันซ้ำซ้อนและจำเจกับเกมที่ถูกปล่อยออกมาในช่วงเวลาเดียวกัน อีกทั้งความสนุกที่มีซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้วแต่มันไม่เท่ากับภาคที่หนึ่งที่เราทุกคนเคยได้เล่นไหมทำให้ประสบการณ์ของภาคที่สองได้น้อยกว่าภาคที่หนึ่งโดยสิ้นเชิง
การต่อสู้ที่ง่ายขึ้น

การต่อสู้ในเกมนี้หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจและอาจจะต้องบอกกันตามตรงว่ามีความคล้ายคลึงกับเกมที่ออกมาในช่วงเดียวกัน แต่ถึงอย่างไรก็ตามการใส่สิ่งต่างๆเรียกไม่น้อยในการต่อสู้ของเกมนี้ก็ทำให้เกมมีความสนุกมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างสิ่งที่ผมชื่นชอบมากที่สุดเลยคงหนีไม่พ้นในเรื่องของการให้เราได้เล่นเกมในมุมมองบุคคลที่สาม ที่ลดความปวดหัว เพราะหลายคนคงไม่ชอบมุมมองอยากมุมมองบุคคลที่หนึ่ง และถึงแม้ว่ามันจะเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีว่าเหมาะกับเกมประเภทนี้แต่การได้เล่นเกมในมุมมองบุคคลที่สามลดความน่ากลัวบางอย่างลงไปได้พอสมควรเลยครับแล้วมันเหมาะอย่างมากกับคนที่ไม่ชอบความน่ากลัว แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าความท้าทายที่คุณได้รับยังไม่มากพอ แล้วคิดจะไปต่อในภาคที่สองขอบอกว่าคุณอาจหวังได้ เพราะบอกกันตามตรงก็คือระบบการเล่นในภาพที่สองนั้นด้อยกว่าภาคที่หนึ่งด้วยความที่ตัวละครของเรานั้นค่อนข้างเก่งเหล่าปีศาจหรือศัตรูของเราก็ถูกอัพเกรดให้มีความอึดมากยิ่งขึ้น แต่แน่นอนว่าในด้านของความหลากหลายค่อนข้างน้อยทำให้เกมนี้ก็หลายคนเลือกที่จะมองข้ามไป
ภารกิจภาคสองหลากหลายจนสับสน

พูดถึงเรื่องของภารกิจภายในเกมนี้ต้องยกให้ภาคที่หนึ่งเป็นภาคที่ด้อยกว่าภาคที่สอง เพราะในภาคที่หนึ่งเกมถูกดำเนินเนื้อเรื่องไม่ในลักษณะเส้นตรงนั่นทำให้การเล่นเกมของเรานั้นไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ ยิ่งเป็นคนที่ชอบการผจญภัยเจอเกมส์พากินหนึ่งเข้าไปอาจจะต้องรู้สึกเบื่อในเวลาไม่กี่ชั่วโมงที่ได้เริ่มเล่น แต่มาภาคที่สองนี้ความน่าสนใจคือเกมมีระบบเควสหลากหลายมากขึ้นทั้งเควสหลักและเควสรอง ส่วนนี้เองทำให้เกมนั้นมีความพิเศษ แต่อย่างไรก็ตามภาคส่วนก็ยังเป็นที่พูดถึงกันอยู่ดีเพราะระบบเควสที่มากเกินไปแถมลักษณะของเควสให้เราเดินกลับไปกลับมาในพื้นที่เดิมเรียกได้ว่าน่าเบื่อที่สุดเลยครับ แต่ถ้าคุณชอบการผจญภัยและอยากทำอะไรมากกว่าเส้นตรงที่เกมส์ได้กำหนดไว้ภาคสองก็ยังถือว่าตอบโจทย์แล้วทำได้ดีพอสมควรครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ รีวิว THE EVIL WITHIN ภาคที่ 1 ทำไมดีกว่าภาคที่ 2 ที่ผมไม่นำมาฝากกันในวันนี้เป็นอีกหนึ่งเกมที่เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตา และผ่านมากับเกมนี้ระยะหนึ่ง ข้อดีของเกมนี้ผมรู้สึกว่ามันเทียบชั้นกับเกมรุ่นพี่ในตำนานได้และที่สำคัญคือราคามันไม่ได้แพง นอกจากนี้ความเป็นเกมเก่าก็ไม่ได้ทำให้เกมนี้ด้อยลงเลยแต่กลับกันมันทำให้เกมนี้ดูน่าสนใจขึ้นอีกในระดับหนึ่ง แม้เวลาจะผ่านไปนานแล้วแต่ระบบหลายอย่างยังคงดีอยู่หากคุณอยากลองเล่นภาคสอง ให้สนุกและตื่นเต้นแนะนำว่าคุณควรที่จะเล่นตั้งแต่ภาคสองเลยแล้วจึงกลับไปเล่นภาคหนึ่งไม่เพื่อไม่ให้อรรถรสในการเล่นเกมเสียนั่นเอง