รีวิวเกม One Lonely Outpost One Lonely Outpost เป็นเกมแนวทำฟาร์มแต่มันไม่เหมือนกันเกมทำฟาร์มทั่วไปเนื่องจากคุณจะเริ่มต้นและดูแลฟาร์มบนดาวเคราะห์ที่มีลักษณะคล้ายโลก ซึ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นในโลกมนุษย์ต่างดาวที่สภาพอากาศแตกต่างออกไป โดยหลังจากที่เรือของคุณทำงานผิดปกติและจำเป็นที่จะต้องลงจอดบนดาวเคราะห์ต่างดาวดวงนี้ ทำให้คุณต้องปลูกพืชผลเพื่อความอยู่รอด ฉะนั้นเราไปดูกันดีกว่าครับว่าเกมนี้มีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง
ระบบเกมเพลย์
เราทำการเดินทางท่องอวกาศและได้ไปชนเข้ากับดาวเคราะห์คาลิปโซในกาแล็กซีแต่นี้ไม่ใช่เป้าหมายของเรา แต่เมื่อการสื่อสารของเราล้มเหลวทำให้เราต้องหยุดลงจอดเพื่อทำการซ่อมแซม แต่ปัญหาของดาวที่เราลงจอดนี้คือ ไม่มีเสบียง
แต่ยังโชคดีที่คุณมีหุ่นยนต์คู่หูของคุณ Qwerty ช่วยซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในขณะที่คุณปลูกเมล็ดพืชเพื่อปลูกอาหาร โชคดีที่คุณมีสารอาหารที่ต้องบำรุงต่อไปในระหว่างนี้
หลังจากที่การสื่อสารได้รับการซ่อมแซมกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง และพบเข้ากับ PGP ซึ่งย่อมาจาก Pan-Galactic Parliament จะเตือนคุณว่าคุณต้องแบ่งปันผลกำไรที่ได้รับจากดาวเคราะห์ดวงนี้ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อคุณเล่นไปสักพักคุณก็จะพบว่า One Lonely Outpost มีเรื่องราวให้ติดตามที่น่าสนใจมากทีเดียว
โดยเราเรียนรู้ว่าเราต้องทำให้โลกน่าอยู่ได้โดยการสร้างพื้นผิวขึ้นมา ซึ่งการแนะนำเมล็ดพันธุ์พืชต่างๆ สู่สิ่งแวดล้อมมีผลเชิงบวกต่อโลกอย่างเห็นได้ชัด และจากที่เคยเล่น Colony Sims มาก่อน ผมสามารถบอกได้ว่าหลายเกมนั้นทำได้ไม่ดีนักในส่วนของการเล่าเรื่อง
เนื่องจากเกมจำลองสถานการณ์มักจะมีอิสระเหมือนกับที่ Stardew Valley มี และในเกม One Lonely Outpost ก็เช่นกัน มันมีภาพลวงตาของอิสรภาพ แต่มันกลับเป็นเส้นตรงและมีการพัฒนาหรือการก้าวหน้าที่ค่อนข้างช้า อีกประเด็นที่เราเรียนรู้คือดาวเคราะห์ดวงนี้มีสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่สื่อสารกับคุณผ่านหุ่นยนต์คู่หู QWERTY ได้
ภาพกราฟิกภายในเกม
One Lonely Outpost เป็นเกมภาพพิกเซล ซึ่งเป็นรูปแบบกราฟิกทั่วไปในเกมประเภทนี้แต่นี้ไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีแต่อย่างใด แต่ในขณะเดียวกันมันก็มีทั้งสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดีเช่นกัน เช่น ทิวทัศน์โดยรวมของแต่ละพื้นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผมสามารถแยกแยะสิ่งของที่ถูกขุด กวาดทิ้ง หรือหยิบขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย
หรือแม้แต่พื้นที่บนดาวเคราะห์มีรายละเอียดมากพอที่ให้ผมสำรวจและทำให้ผมรู้สึกว่ามันเหมือนดาวเคราะห์เอเลี่ยนจริงๆ และเมื่อผมส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของโลกด้วยการปลูกเมล็ดพันธุ์ พื้นที่ต่างๆ ก็เริ่มเบ่งบานไปด้วยชีวิตและสีสัน
แต่อย่างไรก็ตามภาพกราฟิกใน One Lonely Outpost มีข้อเสียบางประการคือ เมื่อสังเกตดีๆ จะเห็นว่าภาพ 2D ของโมเดลตัวละครมีการเคลื่อนไหวที่ไม่ค่อยเหมาะสมนัก และการวางภาพ 3 มิติเหล่านี้ไว้บนทิวทัศน์ 2 มิติดูเหมือนงาน Photoshop ผิดพลาด แต่เมื่อพูดคุยกับ NPC ที่ช่วยในการปรับสภาพพื้นผิวของดาวเคราะห์ รูปภาพของตัวละครจะแสดงได้ดีกว่ามาก
พวกมันดูเหมือนตัวละครอนิเมะที่ดี ซึ่งตัดกันกับกราฟิกพิกเซลตลอดทั้งเกม มันเหมือนกับว่าอนิเมเตอร์ที่ไม่มีสไตล์กราฟิกที่ชัดเจนอยู่ในใจ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่น่าเสียดายอยู่เช่นกัน
สำหรับ UI นั้นมีการออกแบบภาพที่ดีแต่ก็ยังขาดฟีเจอร์ของเกมอยู่บ้างเช่นกัน แท็บเล็ตที่ได้รับการปรึกษาตลอดการเล่นของคุณจะมีกล่องจดหมาย ข้อมูลทรัพยากร และรายละเอียดเกี่ยวกับอาณานิคมอื่นๆ ให้คุณได้ดูข้อมูลอยู่เสมอ
แต่อย่างไรก็ตามสำหรับการใช้งานกล่องในการเก็บของนั้นมีการทำงานที่ไม่ได้ราบรื่นมากนัก เนื่องจากการย้ายรายการจากสินค้าคงคลังของคุณไปยังกล่องเก็บของนั้นน่าเบื่อ ซึ่งคุณสามารถลากและวางสแต็กของรายการได้เท่านั้น แม้ว่าจะมีตัวเลือกในการแบ่งสแต็กแต่ก็ไม่ได้มีการปรับแต่งเหมือนเกมอื่นๆ
โดยไม่มีทางที่จะหยิบของสองหรือสามชิ้นด้วยตัวเองได้ คุณต้องแบ่งกองหลายครั้งเพื่อให้ได้จำนวนที่ต้องการ การทำเช่นนี้ใช้พื้นที่มากกว่าที่จำเป็นได้
ข้อดีและข้อเสียของเกม
One Lonely Outpost มีข้อดีบางอย่างในส่วนของการออกแบบ โดยมันไม่เหมือนกับฟาร์มหรือซิมโคโลนีอื่น ๆ ซึ่งในเกมนี้คุณจะสามารถเล่นไปพร้อมกับการแนะนำของ NPC มากมาย ผ่านแต่ละคนที่คุณพบในเกมนี้เดินทางไปยัง Calypso ซึ่งคุณจะได้ร่วมกันกับ NPC เพื่อสร้างอาณานิคมใหม่ให้เกิดขึ้น
ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของเกมนี้ก็คือเรื่องราวที่ทำให้ผู้เล่นมีส่วนร่วม โดยที่ทุกๆ 2-3 วันจะมีสิ่งที่แตกต่างกันเกิดขึ้นเช่น การสำรวจพื้นที่ ค้นหาวัตถุเฉพาะเพื่อซ่อมแซมอุปกรณ์ หรือรับพิมพ์เขียวใหม่เพื่อขยายอาณานิคม เป็นต้น
แต่ในขณะเดียวกันจุดเปลี่ยนของเรื่องราวที่ทำให้ผู้เล่นมีส่วนร่วมก็เป็นข้อเสียเช่นกัน แม้ว่าจะเป็นเรื่องปกติที่ผู้เล่นจะได้รับไอเท็มหรือภารกิจใหม่ทุก ๆ 2-3 วันแต่มันก็ใช้เวลาที่นานเกินไป และสิ่งนี้ทำให้ตัวละครของคุณมีความก้าวหน้าที่ช้า และเนื้อเรื่องก็มีการดำเนินเรื่องทำไม่ดีนักในการดึงดูดผู้เล่นให้เล่นนานๆ
ในเรื่องของการขุดเพื่อเก็บทรัพยากรนั้นมันง่ายเกินไปที่จะลืมว่าหินสีใดมีวัสดุที่คุณต้องการทำให้เมื่อต้องการจำใช้ก็ต้องดูข้อมูลทุกครั้งนั้นมันค่อนข้างน่าหงุดหงิดอยู่เช่นกัน ตัวอย่างเช่น เกมส่วนใหญ่มีหินที่ดูเป็นทองแดง แต่ไม่ใช่ใน One Lonely Outpost!
อีกสิ่งที่ทำให้ผมหงุดหงิดในการเล่นเกมนี้คือ เมื่อคุณต้องการจัดส่ง 10 กล่อง คุณต้องกดปุ่มเพื่อสั่งทำ 10 ครั้ง โดยคุณไม่สามารถคลิกขวาเพื่อย้ายหนึ่งสแต็กไปยังสแต็กที่มีอยู่ได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจเป็นปัญหาเล็กๆ ที่ผู้เล่นอาจไม่ชอบหรือเกิดความหงุดหงิดอย่างผมก็เป็นได้
สรุป
One Lonely Outpost มีศักยภาพที่จะเป็นทางเข้าที่ยอดเยี่ยมในพื้นที่จำลองแต่ก็ยังไม่ได้น่าประทับใจมากนัก เนื่องจากสถานที่แห่งนี้โดดเดี่ยวเกินไปและไม่มีวัตถุประสงค์และความสนใจที่จะทำให้ผู้เล่นลงทุนเป็นระยะเวลานาน