รีวิวเกม Mail Time ในบทความนี้ผมจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ Mail Time เกมน่ารักที่แสนจะอบอุ่นซึ่งเกี่ยวกับการส่งจดหมายไปยังหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยสัตว์พูดได้และน่าประทับใจมากมาย แม้ว่าเกมนี้จะดูเป็นเกมที่ดูน่าสนุก แต่เนื้อเรื่องและรูปแบบการเล่นเกมกลับไม่ได้รับความนิยมมากนัก ฉะนั้นเราไปดูกันดีกว่าครับว่าเกมนี้มีเนื้อเรื่องและรูปแบบการเล่นอย่างไรบ้าง
โกโก้ร้อนอุ่นๆ ในเดือนเมษายน
เมื่อคุณเริ่ม Mail Time คุณจะเป็นเพียงเด็กส่งไปรษณีย์ตัวน้อยที่ไม่ชอบเห็ดในภารกิจส่งของครั้งแรก ซึ่งในช่วงแรกคุณจะต้องพยายามในการได้รับเหรียญตราและต้องพิสูจน์ว่างานนี้เหมาะกับคุณ ซึ่งคุณจะได้ทำงานร่วมกับ เจเน็ต หัวหน้าของคุณเป็นคนที่โมโหง่ายแต่ก็ให้การสนับสนุนคุณได้อย่างดีมาก โดยเธอจะให้จดหมายฝึกหัดฉบับหนึ่งแก่คุณเพื่อส่งให้เต่า แต่หลังจากนั้น ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วที่จะตามหา Greg ที่เข้าใจยากและส่งจดหมายของคุณ
จดหมายที่คุณจะต้องนำส่งนั้นมีหลากหลายอย่างมากไม่ว่าจะเป็นการแจ้งข้อร้องเรียน คำขอสูตรอาหาร และแม้กระทั่งจดหมายรัก เป็นต้น ซึ่งในการนำส่งจดหมายนั้นคุณจะได้เพลิดเพลินไปกับเหล่าตัวละครที่มีเอกลักษณ์และสนุกสนานของ Mail Time
แม้เรื่องราวภายในเกมนั้นจะเรียบง่ายมากแต่ก็น่ารักมากเช่นกัน ซึ่งเมื่อรวมเข้ากับสไตล์ภาพภายในเกมนั้นถือว่ามันกลมกลืนแล้วไปด้วยกันโดยที่ไม่มีอะไรโดดออกมาเลย เช่นนั้นด้วยเพลงที่ปิดเสียงและการออกแบบที่นุ่มนวล ทำให้ทุกปฏิสัมพันธ์เป็นไปอย่างอบอุ่นเท่าที่ควร และเมื่อพิจารณาถึงตัวละครและบรรยากาศเพียงอย่างเดียว Mail Time ก็ถือว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยมมาก
กลไกในการเล่น
เมื่อพูดถึงกลไกที่เกม Mail Time มีนั้นน่ารักและเข้ากับกลิ่นอายของเกมได้อย่างลงตัว การลอยไปมาระหว่างโซนต่างๆ ของแผนที่นั่นให้ความผ่อนคลายและสนุกสนาน และทำให้หมู่บ้านมีบรรยากาศที่เชื่อมโยงถึงกันและมีชีวิตชีวา
อย่างไรก็ตามกลไกและเครื่องมือของ Mail Time ก็ถือว่ายังมีช่องว่างให้เราเห็นอย่างชัดเจน และสิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือการขาดแผนที่ในเกม แม้ว่าจะเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าการเดินทางที่รวดเร็วหรือเครื่องหมายบอกทางจะขัดขวางความเรียบง่ายของเกม แต่การมีแผนที่ที่วาดด้วยสีพาสเทลก็จะช่วยให้คุณมีเดินทางในช่วงแรกได้ง่ายมากขึ้น
ซึ่งในช่วงแรกแผนที่จะมีความเบลอในบางแผนที่จนกว่าที่คุณจะเปิดเกมไปถึงพื้นที่นั้น มีเรื่องน่าหงุดหงิดใจมากที่ต้องยืนอยู่ในทุ่งดอกไม้สีเหลืองสวยงามสามเท่าของความสูงคุณ และไม่รู้ว่าทิศทางไหนคือทิศทางที่ถูกต้องในการไปหาเพื่อนค้างคาวคนใหม่ของคุณ
นอกจากนี้ยังมีการปะทะกันในเกมอีกด้วย ตัวอย่างเช่น เป็นเรื่องง่ายที่จะยัดตัวเองไว้ใต้เห็ดบางชนิดและไม่สามารถหลบหนีได้ซึ่งมันเกิดกับผม 2 ครั้ง แต่โชคดีที่เกมเซฟได้บ่อย
ตามที่กล่าวไว้ เรื่องราวของ Mail Time นั้นน่ารักและมีเสน่ห์อย่างมากเนื่องจากตัวละครและอวตารหลักที่น่ารักและน่าจับตามอง อย่างไรก็ตามตอนจบกลับมีข้อความที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย “คุณธรรม” ดูเหมือนจะออกมาจากสนามด้านซ้าย
โดยเกมทั้งเกมให้พลังงานแก่ชุมชนที่ยอดเยี่ยมซึ่งมันเป็นความสามารถในการเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่แล้วตอนจบก็จบลงด้วยข้อความเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของความสำเร็จ
ข้อบกพร่องภายในเกม
สิ่งที่น่าเสียดายสำหรับเกมนี้คือ ปัญหาทางเทคนิคและข้อบกพร่องต่างๆ ที่สามารถเห็นได้ ซึ่งทันทีที่กดคุณจะพบกับหน้าจอฉีกขาดอย่างรุนแรงที่ไม่เคยหายไป บางครั้งอาจเป็นเรื่องยากที่จะระบุความลึกได้ อย่างไรก็ตามมันจะเป็นเรื่องยากหากคุณจำเป็นต้องร่อนไปที่ไหนสักแห่งแล้วพลาดไป เพราะรอยน้ำตาหลุดออกไปหนึ่งมิลลิเมตรแล้วล้มลงและต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
ในการเล่นผมเสียเวลาเล่นเกมไปเกือบ 90 นาทีเพราะต้องรีสตาร์ทเกมเนื่องจากผมสูญเสียการเคลื่อนไหวแบบสุ่มไป ซึ่งเมื่อผมต้องการจะบันทึกในการโหลดซ้ำแต่เกมก็ไม่ค่อยบันทึกเลยทำให้ผมต้องเริ่มเล่นใหม่ตลอด แต่ต้องบอกก่อนว่าตัวเกมสามารถตั้งค่าให้บันทึกอัตโนมัติทุกๆ 15 นาที แต่สำหรับผม นั่นมีประโยชน์พอๆ กับที่ Evri บอกว่าพวกเขาส่งพัสดุของผมมาแต่กลับหาไม่พบเลย
ในช่วงต่อมา เกมจะหยุดทำงานทุกครั้งที่ผมได้รับไอเท็มใหม่ มันจะเก็บการแจ้งเตือนว่ามีรายการดังกล่าวอยู่ในสินค้าคงคลังของผมบนหน้าจอ (คุณควรจะสามารถเลือก ‘wooooo’ เพื่อให้มันหายไป ซึ่ง ‘การแก้ไข’ เดียวที่ผมพบสำหรับสิ่งนี้คือการจดจำเมนูหยุดชั่วคราวและบันทึกและออก และโชคดีที่เกมสามารถบันทึกและดำเนินต่อไปในจุดเดิมได้
อีกหนึ่งปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของ Mail Time คือคุณสามารถจบเกมก่อนเวลาอันควรโดยไม่ตั้งใจได้ ซึ่งการเล่นครั้งแรกของผมเป็นแค่เพียงการสำรวจและบังเอิญลอยขึ้นไปบนภูเขาที่เต็มไปด้วยหิมะ ส่งจดหมายให้ Greg เท่านั้นและก็จบเกมเลย โดยผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นเช่นนั้น และต้องรีสตาร์ทเกมเพื่อสัมผัสประสบการณ์ Mail Time อย่างเต็มรูปแบบ
ฉะนั้นในการสรุปตอนท้ายของเกม Mail Time ทำได้ไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากมันไม่ค่อยเหมาะกับส่วนที่เหลือของเกมเท่าที่ควร แต่ว่ามันก็ไม่ได้แย่มากนักแต่เพียงแค่มันไม่น่าประทับใจเท่านั้นเอง
สรุป
เมื่อพิจารณาถึงวัตถุประสงค์และเป้าหมายของ Mail Time ในฐานะเกมที่มีบรรยากาศสบาย ๆ มันทำงานได้ดีมาก เนื่องจากตัวละครมีเสน่ห์ เรื่องราวเรียบง่ายและสนุกสนาน และโลกก็น่ารักราวกับนรก ซึ่งมันให้บรรยากาศเหมือนกับการเดินผ่านสวนพฤกษศาสตร์ในวันที่อากาศแจ่มใส อบอุ่น สบาย และรู้สึกดีโดยไม่ต้องคิดมาก
ผมเพียงแค่อยากให้เรื่องราวมีความรอบคอบมากขึ้นอีกหน่อยในการสร้างตอนจบที่น่าพึงพอใจซึ่งสอดคล้องกับธีมที่เน้นชุมชนเป็นหลัก แต่มันกลับแบนลงเล็กน้อย หากคุณต้องการเล่นเกมสบาย ๆ ในขณะที่คุณกอดผ้าห่มและฟังเพลงโปรดของคุณ หรือคุณเป็นคนที่ชื่นชอบเกมแนว Cozy อยู่แล้วละก็ เกมนี้สามารถตอบโจทย์คุณได้มาก