วันนี้ผมจะมีรีวิวเกมที่มีชื่อว่า Florence ซึ่งในช่วงแรกเปิดมาให้เล่นเพียงบนโทรศัพท์เท่านั้น แต่หลังจากนั้น 2 ปีเกมก็ได้เปิดตัวบน PC และ Nintendo Switch และหลังจากเปิดตัวเกมก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก นอกจากนี้ยังได้รับการยกย่องในระดับสากลว่ามันดีอีกด้วย ฉะนั้นเราไปดูกันดีกว่าครับว่าเกมนี้อะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
ความสบาย การเปลี่ยนแปลง และเชลโล
ฟลอเรนซ์เป็นทั้งชื่อเกมและตัวละครหลัก ซึ่งตัวละครหลักคือ ฟลอเรนซ์ โหย่ว เป็นหญิงสาววัย 25 ปีที่ทำงานน่าเบื่อในเมลเบิร์น และพบว่าตัวเองตกอยู่ในภาวะวิกฤตในช่วงของชีวิตที่เป็นกิจวัตรจนเกินไปคือ การทำงาน โซเชียลมีเดีย บ้าน นอน และซ้ำไปเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม วันหนึ่ง แบตเตอรี่ในโทรศัพท์ของเธอหมดระหว่างการเดินทางช่วงเช้า และเธอก็ได้ยินอะไรบางอย่าง ซึ่งมันน่าดึงดูดจนเธอต้องหาต้นตอของเสียงให้เจอ นั่นคือ ชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อกฤษณะเล่นเชลโลของเขาและสนุกสนานไปตามถนนในเมลเบิร์นนั่นเอง ซึ่งทั้งสองได้พับกันจากอุบัติเหตุบางอย่างที่เกิดขึ้นและจากนั้นก็เริ่มออกเดตกัน และหลังจากนั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็พัฒนาไปเรื่อยๆ และรวมกันช่วยให้ฟลอเรนซ์ทำตามความปรารถนาของเธอ
โดยตัวเกมได้บันทึกความสัมพันธ์ของพวกเขา ทั้งขึ้น ๆ ลง ๆ และนำเสนอมุมมองดราม่าต่างๆ ทั้งในความสัมพันธ์ การพบปะผู้คน วิธีการเรียนรู้จากกันและกันและเติบโต และแม้ว่าทุกอย่างจะไม่ราบรื่นหรือมีผลลัพธ์ที่ ‘ในอุดมคติ’ แต่บางครั้งก็ไม่เป็นไร
เนื่องจากบางครั้งประสบการณ์นั้นก็ให้สิ่งที่เราจำเป็นต้องเรียนรู้ เติบโต และกลายเป็นคนที่ดีขึ้น ซึ่งข้อความในเกมนี้มันดึงดูดผมได้มากจริงๆ ซึ่งในขณะที่เกมอื่นๆ ใช้บทความที่มีจำเจ แต่ Florence ใช้การเติบโตและทัศนคติเชิงบวกเพื่อสร้างเรื่องราวที่บอกว่าการเปลี่ยนแปลงอาจเป็นเรื่องยาก ซึ่งแม้จะมีผู้ที่ไม่เข้าใจคุณ หรือแม้แต่สิ่งที่คุณคาดหวังแล้วมันไม่เป็นไปตามที่คุณต้องการ แต่มันจะไม่เป็นไรและคุณจะได้เรียนรู้ คุณจะเติบโต และคุณจะโอเค
บางทีระหว่างทางคุณจะพบว่าตัวเองควรจะอยู่ที่ไหน นอกจากนี้ ยังมีเพลงประกอบที่สวยงามที่จับทุกช่วงเวลา ผ่อนคลาย ตึงเครียด สร้างแรงบันดาลใจ และทุกสิ่งในระหว่างนั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ
หนังสือภาพแบบโต้ตอบ
ตอนที่ผมเล่นฟลอเรนซ์ครั้งแรก มีความรู้สึกคุ้นเคยที่ผมนึกไม่ออก และมันทำให้ฉันนึกถึงหนังสือภาพเจ๋งๆ สำหรับเด็กที่ทุกหน้ามีตัวอักษร ‘ องค์ประกอบแบบโต้ตอบ ‘ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นพับที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ หรือสิ่งที่นุ่มนวลบนหน้าให้สัมผัส ทุกหน้าจะเพิ่มองค์ประกอบ ‘การลงมือปฏิบัติ’ ประเภทนี้ให้กับเรื่องราว
นั่นคือสิ่งที่ผมรู้สึกในการเล่นเกมนี้ โดยการบอกเล่าใน 20 บท ซึ่งแต่ละบท ได้รับการบอกเล่าผ่านการผสมของการเลื่อนดูรูปภาพและฉากที่มีการโต้ตอบมากขึ้น เช่น การจัดและแกะสิ่งของของ Krish ขณะที่เขาย้ายเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ของฟลอเรนซ์ หรือการรวบรวมชิ้นส่วนปริศนาของบทสนทนาสำหรับฟลอเรนซ์ในขณะที่เธอคุยกับ Krish เฉพาะสำหรับ ปริศนาจะมีชิ้นส่วนน้อยลงเรื่อยๆ เมื่อฟลอเรนซ์พบว่าเขาพูดคุยง่ายขึ้นและง่ายขึ้น และอีกครั้งที่ชิ้นส่วนปริศนากลายเป็นรอยหยักและไร้สาระเนื่องจากการโต้แย้งระหว่างคนทั้งสองแตกสลาย
มีองค์ประกอบแบบโต้ตอบเล็กๆ น้อยๆ มากมายที่ทำให้ผู้เล่นอยู่ท่ามกลางชีวิตที่ซับซ้อนและกำลังพัฒนาของฟลอเรนซ์ ทั้งหมดนี้ใช้ข้อความเพียงเล็กน้อย เรื่องราวถูกบอกเล่าผ่านรูปภาพและช่วงเวลาโต้ตอบเล็กๆ น้อยๆ และมันก็ได้ผล แม้ว่าองค์ประกอบต่างๆ จะดูเรียบง่าย แต่ก็เป็นวิธีที่สมบูรณ์แบบในการแสดงให้เห็นว่าฟลอเรนซ์รู้สึกอย่างไรผ่านทุกปฏิสัมพันธ์ และด้วยเหตุนี้ ผู้เล่นจึงมั่นใจได้ว่าจะรู้สึกแบบเดียวกัน
ความรัก การสูญเสีย และการเติบโต
โดยสรุปแล้ว Florence เป็นเรื่องราวเป็นเอกลักษณ์และทำให้คุณลืมเกมอื่นได้ในชั่วขณะเลยก็ว่าได้ ซึ่งในเกมไม่ได้ความรุนแรงเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย แต่มีความรัก อารมณ์ และวิธีที่เรานำเสนอผ่านความรู้สึกทางภาพ ไม่มีทางเลือกที่ ‘ผิด’ หรือ ‘ถูก’ ไม่มีทางเลือกจริงๆ และก็ไม่เป็นไร
แต่ไม่ใช่ทุกเรื่องราวจำเป็นต้องมี เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องราวของผู้เล่น นี่คือเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่ค้นพบกับสิ่งที่เธอจะต้องเจอและเรียนรู้เพื่อการเติบโต และมันดีมากเลย และหากคุณกำลังสนใจเกมนี้อยู่ละก็ ผมขอแนะนำให้ลองเล่นเลยครับ
รีวิวจากผู้เล่นทั่วไป
+7/10 ด้วยความยาวเพียง 30 นาทีและมีมูลค่าการเล่นซ้ำเพียงเล็กน้อยแม้มันจะไม่ได้เหมาะสมกับทุกคน แต่เกมให้การเดินทางทางอารมณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ให้ผู้เล่นได้เรียนรู้ไปพร้อมกับตัวละครหลักซึ่งยอดเยี่ยมทีเดียว
+ 8/10 ฟลอเรนซ์ผสมผสานสุนทรียภาพอันน่าหลงใหล การโต้ตอบที่เรียบง่าย และเรื่องราวที่แท้จริงในรูปแบบที่สร้างสรรค์และน่าดึงดูด
+ 9/10 ตัวละครจะพาทุกท่านผ่านจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของความรักที่เพิ่งค้นพบ โดย Florence เป็นเรื่องราวที่บอกเล่าเรื่องราวและสะเทือนอารมณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งจะดึงดูดคุณด้วยวิธีที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ
+ 10/10 เช่นเดียวกับวิดีโอเกมที่เทียบเท่ากับวงออเคสตรา ซึ่งเกม Florence ประกอบด้วยองค์ประกอบต่างๆ มากมายที่ทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นเพื่อสร้างผลงานชิ้นเอกทางอารมณ์ วิดีโอเกมที่สำรวจความโรแมนติกไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เกมที่สั้นและไพเราะนี้น่าจะเป็นเกมที่ดีที่สุดและสมจริงที่สุดที่แสดงให้เห็นว่าความเป็นจริงของการตกหลุมรักเป็นอย่างไร
+ 9/10 Florence เป็นเรื่องราวความรัก เรื่องราวที่ผสมผสานวิดีโอเกมและการ์ตูนเข้าด้วยกัน สามารถสร้างรูปแบบการเล่าเรื่องที่ละเอียดอ่อนและเป็นบทกวี แต่มีผลกระทบทางอารมณ์อย่างล้นหลาม ซึ่งทำให้คุณพูดไม่ออก ในตอนท้ายของเรื่องสั้นนี้ คุณจะ พบว่าตัวเองมีก้อนเนื้อในลำคอจนอยากจะละลายเป็นน้ำตา ซึ่งถือเป็นการทำงานร่วมกันที่สมบูรณ์แบบระหว่างการสร้างภาพที่ไร้ที่ติและรูปแบบการเล่นที่ได้รับการออกแบบในการให้บริการของโครงเรื่องทำให้ฉากที่เน้นย้ำถึงศักยภาพของสื่อวิดีโอเกมสำรวจศักยภาพของนิยายดิจิทัล
+ 9/10 แม้จะมีการเล่าเรื่องสั้นและเอกพจน์ แต่เกม Florence ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ฉันจะไปเยี่ยมชมหลายครั้งอย่างไม่ต้องสงสัย เพียงเพราะมันสวยงามจับใจมาก
