สล็อตเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ PG JOKER แตกง่าย ล่าสุด เว็บตรง100% ดีที่สุด ปี 2023

รีวิวเกม Degrees Of Separation

รีวิวเกม Degrees Of Separation

รีวิวเกม Degrees Of Separation วันนี้ผมจะมีรีวิวเกม Degrees Of Separation เป็นปริศนาที่เกี่ยวกับตัวละครสองตัว ได้แก่ Ember และ Rimeซึ่งทั้ง 2 คนก็จะมีเรื่องราวที่แตกต่างกันคือ Ember มีพลังแห่งฤดูร้อน และ Rime มีพลังแห่งฤดูหนาว แต่ตัวละครทั้ง 2 มีสิ่งกีดขวางระหว่างพวกเขาทำให้ทั้ง 2 ต้องทำงานร่วมกันเพื่อใช้พลังของพวกเขาเพื่อไขปริศนาต่างๆ
และตัวเกมก็ยังสามารถเล่นได้แบบผู้เล่นเดี่ยว แต่หัวใจหลักของเกม Degrees of Separation คือเกมแบบร่วมมือกัน และนอกจากนี้ยังให้การเล่นรูปแบบออนไลน์ที่คุณสามารถเล่นเกมได้ในโหมด co-op ในพื้นที่ และในผู้เล่นเดี่ยว คุณสามารถควบคุมทั้ง Ember และ Rime ได้อีกด้วย
โดยคุณสามารถสลับระหว่างอักขระสองตัวได้ด้วยการกดปุ่ม และคุณสามารถเรียกเพื่อนของคุณให้ติดตามคุณได้ตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตามตัวเกมนี้ให้ความสำคัญกับการเล่นกับเพื่อนหรือคนสำคัญมากกว่า  เนื่องจากเรื่องราวส่วนใหญ่เกี่ยวกับ Rime และ Ember ที่พยายามหาทางที่จะอยู่ด้วยกัน


ระบบเกมเพลย์


ตัวเกมมีสไตล์ภาพที่สวยงาม โดยแต่ละพื้นที่จะสลับระหว่างฤดูหนาวและฤดูร้อนซึ่งสิ่งนี้เกมทำได้อย่างราบรื่นและมีเอฟเฟกต์กราฟิกที่ดีจริงๆ นอกจากนี้ยังให้การควบคุมเกมค่อนข้างเรียบง่ายเพียงแค่คุณเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ และกระโดดเท่านั้น แม้บางด่านจะให้กลไกเพิ่มเติมแก่คุณแต่คุณก็ยังสามารถเปิดใช้งานได้ด้วยปุ่มเดียว
ปริศนาภายในเกมนั้นค่อนข้างยากทำให้ต้องอาศัยการทำงานเป็นทีมที่แม่นยำด้วยพลังของ Ember และ Rimes ที่มีพลังการทำงานที่แตกต่างกันโดยฤดูร้อนของ Ember จุดโคมไฟและทำให้พวกเขาขึ้นไปได้ง่าย และความหนาวเย็นในฤดูหนาวของ Rime ทำให้พวกเขายุบลงและเคลื่อนตัวลงมาได้ง่ายกว่า
Ember สามารถเคลื่อนที่ใต้น้ำได้ แต่ Rime ทำให้ทะเลสาบและสระน้ำกลายเป็นน้ำแข็งซึ่งเป็นการใช้งานที่แตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือทั้งสองไม่สามารถสัมผัสได้ ฉะนั้นผู้เล่นต้องเข้าใจการใช้งานพลังของตัวละครที่แตกต่างกันนี้เพื่อการเหมาะสมในการใช้งานในแต่ละด่าน และเมื่อใดที่สามารถใช้ร่วมกันได้
ความเป็นคู่ของพลังของตัวเอกถูกนำมาใช้อย่างชาญฉลาดและสนุกกับความคิดเนื่องจากผู้เล่นค่อนข้างต้องเวลาในการทำความเข้าใจในการที่จะใช้งานพลังของตัวละครให้ถูกต้อง ฉะนั้นมันจึงถือเป็นการฝึกสมองไปในตัวและสิ่งที่สำคัญในการเล่นคือ คุณต้องคิดนอกกรอบเล็กน้อยเพื่อหาทางแก้ปริศนาแต่ละอย่าง
นอกจากจะควบคุมพลังแห่งฤดูร้อนและฤดูหนาวแล้ว ทั้งคู่ยังต้องคิดหาวิธีใช้เชือก ช่องระบายอากาศ ก้อนหิมะ และอื่นๆ อีกมากมายเพื่อแก้ปัญหาแต่ละอย่าง เช่น ปริศนาแต่ละชิ้นจะบล็อกการเข้าถึงผ้าพันคอ และทั้งคู่ต้องใช้ผ้าพันคอจำนวนหนึ่งเพื่อเปิดประตูต่างๆ ที่กระจัดกระจายอยู่รอบๆ ปราสาท ซึ่งประตูแต่ละบานนำไปสู่พื้นที่และปริศนาตามธีมของตัวเอง
โดยทุกพื้นที่มีกลไกเฉพาะตัวที่ Ember และ Rime ต้องใช้เพื่อไขปริศนาภายในนั้น เช่น ผู้เล่นสามารถใช้งานพลังเดียวเพื่อสร้างสะพานเชื่อมในช่องว่างเพื่อให้ทั้งสองสามารถข้ามไปได้ แต่ในทางกลับกันหากทั้งสองเข้าใกล้กันมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดการระเบิดได้ ทำให้ผู้เล่นต้องคิดเพื่อหาทางออกให้ได้ เช่น การส่งคนหนึ่งบินไปก่อน จากนั้นให้อีกคนใช้พลังเพื่อกระโดดและพุ่งไป ปริศนานั้นฉลาดและน่าพอใจมากแม้พวกเขาจะให้คำใบ้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ฉะนั้นส่วนใหญ่ผู้เล่นจะต้องเป็นคนคิดเองมากกว่า แต่หากคุณเป็นคนหงุดหงิดง่ายงั้นคุณก็ควรข้ามเกมนี้ไป
นอกจากนี้ภายในเกมยังไม่มีบทสนทนาใดๆ แต่เกมมีผู้บรรยายซึ่งจะอธิบายความคิดของ Rime และ Ember ในขณะที่คุณสำรวจระดับต่างๆ ทุกอย่างดูน่ารักโดยธรรมชาติ ตัวละครสองตัวที่อยากอยู่ด้วยกันแต่ถูกขัดขวางโดยพลังบางอย่างที่ไม่รู้จัก ผู้บรรยายมักจะอธิบายว่าทั้งสองสนุกกับการอยู่เคียงข้างกันและรักในการทำงานร่วมกันอย่างไร
ผมได้ลองเล่นเกมนี้กับคนสำคัญและในการเล่นเกมก็พบว่ามันมีบางสิ่งที่ลึกซึ้งมากระหว่างเล่นเกม โดยภายในเกมจะสะท้อนถึง Rime และ Ember ความอ่อนหวานและการทำงานร่วมกันแบบโรแมนติกควบคู่กัน แต่อย่างไรก็ตามในการเล่นของแต่ละคู่อาจจะแตกต่างกันไป บางคู่กันจะทะเลาะกันจนเกมจบ หรือบางคู่อาจจะทะเลาะกันก่อนที่เกมจะจบก็เป็นได้ ฉะนั้นหากคุณต้องเล่นกับคู่ของคุณแล้วละก็ คุณอาจจะพิจารณาก่อนอย่างแรกว่าคุณและคู่ของคุณนั้นน่าจะอยู่ในประเภทไหน เนื่องจากเป็นคู่ที่อาจทะเลาะกันก่อนจบเกม ก็ไม่ควรจะเล่นเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจตามมาได้
แต่ในส่วนของผมพบว่าแม้เราจะต้องเล่นเกมคู่กันแต่เฮฮาไปกับผู้บรรยายที่บรรยายถึงตัวละครทั้ง 2 ตัวมากและในอีกทางคือมันทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้นด้วยเช่นกัน


สรุป


เกมนี้ค่อนข้างยาว แต่ระยะเวลาในการเล่นของคุณก็จะขึ้นอยู่กับว่าคุณสามารถไขปริศนาได้เร็วแค่ไหน ตัวปริศนาได้รับการออกแบบมาอย่างดีเนื่องจากมันสามารถกระตุ้นความคิดของผู้เล่นได้เป็นอย่างดี ทั้งยังต้องใช้การทำงานเป็นทีมถึงกลไกต่าง ๆ ก็ถูกนำมาใช้อย่างชาญฉลาดอีกด้วย
นอกจากนี้ตัวเกมยังดูสวยงามและผู้บรรยาย Kira Buckland ก็ทำหน้าที่ได้อย่างโดดเด่น และมันยังเป็นเกมที่ต้องใช้ความอดทนในการเล่นและยังสามารถฝึกนิสัยของผู้เล่นได้อีกด้วย
หากคุณกำลังมองหาเกม co-op ในพื้นที่และหากชอบเกมไขปริศนา คุณจะต้องไม่พลาดเกม Degrees of Separation หรือถ้าคุณชอบเกมไขปริศนาที่ดีๆ และต้องการเล่นคนเดียวเกมนี้ก็สามารถเล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบในโหมดผู้เล่นคนเดียวเช่นกัน เนื่องจากการควบคุมการสลับระหว่างตัวละครเอกทั้งสองนั้นราบรื่นและไร้รอยต่อ และรูปแบบศิลปะก็ดูสบายตา หากแนวคิดนี้ทำให้คุณสนใจ มันก็คุ้มค่ากับราคาที่จะจ่าย

Share the Post:

Related Posts

เกม-Imp-of-the-Sun

สิ่งที่ชอบและสิ่งที่ไม่ชอบในเกม Imp of the Sun

รีวิวเกม Imp of the Sun ของ LifeisXbox เป็นเกมผจญภัยวัฒนธรรมเปรูที่มาในสไตล์ภาพแอ็คชั่น 2 มิติที่สวยงาม โดยเกม Imp of the Sun คุณจะได้สวมบทบาทเป็น Nin ซึ่งเป็นอิมป์ที่สร้างขึ้นจากประกายไฟสุดท้ายของดวงอาทิตย์ โดยคุณจะต้องออกเดินทางเพื่อเอาชนะ Four

Read More
รีวิวเกม One Lonely Outpost

รีวิวเกม One Lonely Outpost

รีวิวเกม One Lonely Outpost One Lonely Outpost เป็นเกมแนวทำฟาร์มแต่มันไม่เหมือนกันเกมทำฟาร์มทั่วไปเนื่องจากคุณจะเริ่มต้นและดูแลฟาร์มบนดาวเคราะห์ที่มีลักษณะคล้ายโลก ซึ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นในโลกมนุษย์ต่างดาวที่สภาพอากาศแตกต่างออกไป โดยหลังจากที่เรือของคุณทำงานผิดปกติและจำเป็นที่จะต้องลงจอดบนดาวเคราะห์ต่างดาวดวงนี้ ทำให้คุณต้องปลูกพืชผลเพื่อความอยู่รอด ฉะนั้นเราไปดูกันดีกว่าครับว่าเกมนี้มีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง ระบบเกมเพลย์  เราทำการเดินทางท่องอวกาศและได้ไปชนเข้ากับดาวเคราะห์คาลิปโซในกาแล็กซีแต่นี้ไม่ใช่เป้าหมายของเรา แต่เมื่อการสื่อสารของเราล้มเหลวทำให้เราต้องหยุดลงจอดเพื่อทำการซ่อมแซม แต่ปัญหาของดาวที่เราลงจอดนี้คือ ไม่มีเสบียง แต่ยังโชคดีที่คุณมีหุ่นยนต์คู่หูของคุณ Qwerty ช่วยซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในขณะที่คุณปลูกเมล็ดพืชเพื่อปลูกอาหาร

Read More